ประเพณีลอยโคม

ประเพณีลอยโคม

      ประเพณีลอยโคม หากจะพูดถึงประเพณีไทยที่ขึ้นชื่อ และเลื่องลือในด้านของความสวยงามประเพณีหนึ่งที่จะไม่กล่าวถึงไม่ได้เลยก็คือ “ประเพณีลอยโคม” เพราะช่วงเวลาที่โคมที่ถูกปล่อยให้ลอยขึ้นไปสู่ท้องฟ้านั้นจะเกิดเป็นภาพที่สวยงามที่ทุกคนไม่อาจจะลืมภาพแห่งช่วงเวลานั้นไปได้เลย ซึ่งในส่วนช่างภาพหลายคนต่างก็รอคอยช่วงเวลานี้เพื่อที่จะได้ถ่ายเก็บภาพสวยๆเหล่านี้เพื่อนำไปเป็นผลงานของตนเอง

 “ประเพณีลอยโคม” นั้นเป็นประเพณีของทางภาคเหนือ

เป็นประเพณีพื้นบ้านที่เกิดขึ้นโดยชาวล้านนาจะมีการจัดประเพณีขึ้นในวันเพ็ญเดือน12 โดยที่การลอยโคมในแบบของชาวล้านนานั้นจะไม่ใช่การลอยโคมให้ลอยไปตามสายน้ำ หรือว่าเป็นการลอยกระทง

แต่การลอยโคมของชาวล้านนาจะเป็นการลอยโคมที่จะถูกปล่อยลอยขึ้นไปในอากาศ

ซึ่งตามประเพณีแล้วมีความเชื่อกันว่าเมื่อได้ทำการปล่อยโคมลอยขึ้นฟ้าจะเป็นการได้ปลดปล่อยความทุกข์ความโศกรวมไปถึงเรื่องร้ายๆที่ได้ผ่านเข้ามาในชีวิตของเราให้หลุดออกไปจากตัว และถือได้ว่าเป็นการได้บูชาหรือแสดงความกตัญญู กตเวทีต่อบรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้วนั่นเอง

จากความเชื่อเกี่ยวกับพระธาตุแก้วจุฬามณี

ที่เชื่อกันว่าที่นั่นเป็นที่ที่บรรจุมวยผมของพระพุทธเจ้าที่ได้ทำการตัดออกก่อนออกผนวชโดยที่เจดีย์อยู่ที่สวรรค์ชั้นดาวดึงส์นั่นเอง จึงเกิดเป็นความเชื่อว่าชาวล้านนาที่เกิดในปีจอจะต้องใช้โคมลอยนี้ในการบูชาพระธาตุเกศแก้วจุฬามณี

โดยจะต้องทำการปล่อยโคมลอยไปให้ไกลที่สุด โดยในวันงานที่จัดประเพณีลอยโคมนั้นจะจัดให้มีการจุดไฟโคมแล้วทำการปล่อยขึ้นไปบนท้องฟ้าซึ่งจะทำให้ท้องฟ้ายามค่ำคืนในวันนั้นสว่างไสวเต็มไปด้วยแสงไฟจากโคมลอยมีความสวยงาม

อีกทั้งประเพณีนี้ก็ได้กลายเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้นทั้งในหมู่คนไทย และชาวต่างชาติเองต่างก็ให้ความสนใจอยากจะมาเห็นในความสวยงามที่เป็นดังเอกลักษณ์ของประเพณีไทยอย่างประเพณีการลอยโคมนี้กันเป็นอย่างมาก

แต่ในปัจจุบันนั้นประเทศไทยของเราได้มีการรณรงค์เรื่องการปล่อยโคมลอยในประเพณีการลอยโคม

ลอยกระทง รวมไปถึงมีหลายๆคนได้ออกมาห้ามไม่ให้ทำการปล่อยโคมลอยนี้อีก สาเหตุนั้นเนื่องมาจากว่ามีผู้ได้รับความเดือดร้อน และเสียหายจากดคมลอยที่ไปตกตามสถานที่ต่างๆจนเกิดเป็นปัญหาใหญ่อย่างอัคคีภัยขึ้นทั้งในพื้นที่ชุมชน

และในพื้นที่ทางเกษตรกรรมที่ชาวบ้านใช้ในการทำมาหากินกันชีวิตประจำวันนั่นเอง ทั้งนี้อีกหนึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นก็คือปัญหาขยะจากโคมลอยที่ดับแล้วไปตกนั้นมีเป็นจำนวนมากจนเกิดเป็นกองขยะและสร้างปัญหาให้ชาวบ้านหลายๆคน

         อย่างไรก็ตามการได้สืบทอดประเพณีที่มีความสวยงามเช่นนี้ก็ถือเป็นเรื่องที่ดี แต่ถ้าหากผลจากการจัดประเพณีปล่อยโคมลอยนี้ให้ผลเสียมากกว่าผลดี เราทุกคนก็ควรมีการรณรงค์และร่วมมือร่วมใจกันที่จะไม่ปล่อยโคมลอยนี้ให้ไปเกิดเป็นอัคคีภัยที่จะทำให้ชีวิตมนุษย์ สัตว์ป่า และทรัพย์สิน รวมไปถึงทรัพยากรทางธรรมชาตินั้นเสียหายจากน้ำมือมนุษย์อย่างเราๆอีกเลยจะเป็นการดีกว่า