สำหรับเรื่องราวที่จะพูดถึงต่อไปนี้เป็นเรื่องราวที่พูดถึงกันมากในประเทศมาเลเซียซึ่งเป็นตำนานที่พูดถึงความน่ากลัวของอาคารแห่งหนึ่งที่เคยโดดเด่นและสวยงามในประเทศมาเลเซียอย่างมากโดยตึกดังกล่าวนั้นชื่อว่าไฮแลนด์ทาวเวอร์ซึ่งตึกดังกล่าวนั้นจะมีการสร้างไว้ 2 ตึกคู่กัน
โดยคนที่จะมาอาศัยอยู่ในตึกนี้จะต้องเป็นคนที่มีเงินและมีฐานะเนื่องจากว่าตึกนี้ค่อนข้างหรูและราคาแพงอย่างไรก็ตามเมื่อประมาณปีคริสตศักราช 1993 ตึกแกรนด์ทาวเวอร์ 1 ใน 2 ตึกนั้นได้เกิดถล่มลงมาและทำให้มีคนล้มตายเป็นจำนวนมากจากการตึกถล่มในครั้งนั้นและเมื่อทั้งรัฐบาลและเจ้าหน้าที่ได้มีการเก็บกู้ซากตึกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
อีกตึกที่เหลือที่เป็นตึกฝาแฝดคู่กันก็รกร้างทันทีเนื่องจากว่าผู้คนไม่กล้าอยู่อาศัยเพราะเกรงว่าตึกจะถล่มลงมาเหมือนกับตึกคู่แฝดนั่นเองทำให้นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาตึกทาวเวอร์ที่ยังเหลืออีก 1 ตึกนั้นถูกปล่อยให้รกร้างและไม่มีคนอยู่อาศัยและตามความเชื่อของคนในสมัยโบราณต่างก็เชื่อกันว่าหากตึกถูกปล่อยทิ้งรกร้างไม่มีใครดูแลหรืออยู่อาศัย
ก็จะทำให้เหล่าวิญญาณเร่ร่อนทั้งหลายนั้นเข้าไปอยู่และมีเรื่องเล่าเกี่ยวกับเรื่องของตำนานผีที่สิงสถิตอยู่ในตึกแกรนด์ทาวเวอร์แห่งนี้ โดยมีการเล่าขานถึงความน่ากลัวของผีที่ตึกแกรนด์ทาวเวอร์ว่ามีแท็กซี่คนหนึ่งได้มีการรับผู้โดยสารคนหนึ่งขึ้นแท็กซี่มาโดยเธอบอกให้แท็กซี่คนดังกล่าวนั้นไปส่งเธอที่ Hi Land Tower
ซึ่งแท็กซี่ก็ได้คุยกับผู้โดยสารสาวว่าที่ไฮแลนด์ Tower นั้นปัจจุบันกลายเป็นอาคารร้างแล้วไม่มีคนอยู่อาศัยและเขายังถามเธอด้วยว่าเธอจะไปที่นั่นทำไมซึ่งเธอก็ได้ตอบกลับแท็กซี่คนดังกล่าวไปว่าที่เธอต้องการเดินทางไปที่นั่นเนื่องจากว่าแขนและขาของเธอยังคงอยู่ที่นั่นเธอต้องการที่จะไปตามแขนขาของเธอกลับคืนมาและนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาชาวบ้านต่างก็ร่ำลือกันถึงความเฮี้ยนของผีสาวที่อาศัยอยู่ที่ตึกแกรนด์ทาวเวอร์และนับตั้งแต่นั้นก็ไม่มีใครที่จะกล้าเข้าไปยุ่งเกี่ยวที่ตึกนั้นกันอีกเลยทำให้ตึกร้างแห่งนั้นยังคงปิดล้างมาจนถึงทุกวันนี้นั่นเอง
สำหรับเหตุการณ์เรื่องราวนี้เป็นเรื่องเล่าที่มีการเล่าต่อๆกันมาของคนในพื้นที่เท่านั้นซึ่งคนรุ่นหลังอย่างเราก็คงไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่เพราะปัจจุบันนี้ก็ไม่มีใครที่ได้เห็นวิญญาณผีสาวตอนนั้นอีกเลยหรือที่ไม่เห็นเพราะว่าไม่มีใครกล้าจะเข้าไปที่นั่นหรือเปล่าก็ไม่รู้
ได้รับการสนับสนุนโดย ีดฟิำะ