เดือน: กันยายน 2021

เหตุการณ์ไข้หวัดสเปนผู้ป่วยไม่พอจำนวนหมอ

โดยในสถานการณ์นี้ในปัจจุบันมันก็เคยเกิดขึ้นมาแล้ว. เหตุการณ์ไข้หวัดสเปน ไม่กี่เดือนที่ผ่านมาเกี่ยวกับสถานการณ์โควิดที่ผ่านมาด้วยคนบางคนไม่ได้เป็นโรคร้ายแบบที่เป็นข่าวแต่ว่าคนส่วนใหญ่คิดไปเองว่าหรือว่าเราจะเป้นโรคแบบนั้นหรือเปล่าเราเอาตัวเราไปรักษาหรือเอาตัวเราไปให้หมอตรวจดีกว่า

ซึ่งความคิดนี้ถามว่ามันดีไหมจริงๆแล้วมันก็ดีแต่ข้อเสียคุณอย่าลืมว่าถ้าคุณไม่ได้เป็นโรคนั้นแต่คุณคิดไปว่าคุณเป็นและได้เข้าไปสู่สถานที่ที่มีแต่คนคิดว่าเป็นโรคและถ้าเกิดว่าวันนั้นมีคนติดเชื้อขึ้นมาจจริงๆหนึ่งคนแน่นอนมันคือการแพร่กระจายขนาดใหญ่

นอกจากนี้คนทุกคนมักจะคิดว่าตัวเองเป็นโรคอาจจะไม่ได้เป็นโรคเลยแต่มันได้มีคนๆนึงเป็นโรคและคนเหล่านั้นก็ได้ซุ่มเชื้อทำให้เชื้อนั้นกระจายไปทั่วสุดท้ายมันก็กลายเป็นการกระจายเชื้อที่ใช้คำว่าไม่สามารถตีความเสียหายได้นั่นเองและเหตุการณ์ตรงนี้ในอดีตเกิดขึ้นมาแล้วและเป็นบนเรียนใหญ่มากนั่นก็คือ

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในไขหวัดสเปนที่มีผู้เสียชีวิตมากกว่า50ล้านคนนั่นเองและหลังจากที่เกิดเหตุการณ์แรกเหตุการณ์ที่สองและเหตุการณ์ที่สามจึงได้เกิดขึ้นตามต่อมานั่นก็คือ เมื่อหมออีกา ขาดตลาดมันเลยเกิดหมออีกาปลอมขึ้นนั่นเองตรงนี้ก็ตามชื่อเลย

เพราะว่าหมออีกานั้นขาดตลาดในเวลานั้นหมออีกาจึงเกิดขึ้นเป็นว่าเล่น เนื่องจากว่าความเชื่อมั่นทางการแพทย์ในโรงพยาบาลมีความเชื่อถือค่อนข้างต่ำไม่สามารถรักษาโรคให้พวกเขาได้คนก็เลยไปเชื่อทางด้านไสยศาสตร์ทางด้านแพทย์ทางเลือกมากกว่าเลยทำให้หมออีกานั้นเป็นที่มากและแพทย์ต่างๆที่ตกงานนั้น

เขาจึงได้สวมรอยเป็นหมออีกาและไปรักษาคนด้วยวิธีของเขาที่ไม่ได้ถูกหลักจรรยาบรรณที่อาจจะเป็นวิธีส่วนตัวซึ่งมันอาจจะรักษาเขาหายได้หรือมันอาจจะไม่สามารถรักษาเขาให้หายได้และมันอาจจะทวีคุณความเสียหายให้มีความรุนแรงมากกว่านั้นเลยก็เป็นได้

ซึ่งวิธีการรักษาตรงนี้ถ้าเอาตามข้อมูลที่มีบันทึกเอาไว้ค่อนข้างที่จะน่าสงสารมากมีตั้งแต่วิธีที่โหดร้ายมากๆรวมไปถึงวิธีที่ไม่คิดว่าเขาจะใช้วิธีนี่กันเลยมันมีตั้งแต่การใช้ปลิวดูดเลือกเสียออกจากร่างกายการใช้สัตว์มีพิษหรือผิวหนังของสัตว์มีพิษถูตามร่างกาย

โดยททางทีมแพทย์เหล่านั้นเขาด้มีความคิดว่าถ้าเอาผิวหนังของสัตว์ที่มีพิษเอามาถูตามร่างกายพิษเหล่านั้นก็จะโดนดูดและจะตามสัตว์เหล่านั้นออกมาทำให้บุคคลลนั้นได้หายป่วยเป็นอย่างปกตินั่นเอง

 

ขอบคุณผู้ให้การสนับสนุนโดย    สล็อต ยิงปลา ฝากขั้น ต่ำ 100

ตำนานอาถรรพ์เจ้าหญิง อาเมน-รา 

            สำหรับเรื่องราว อาถรรพ์เจ้าหญิง อาเมน-รา  นั้น พระนางเป็นเจ้าหญิงของประเทศอียิปต์  ที่ว่ากันว่าพระนางนั้นมีอายุมาตั้งแต่ก่อนปีเกิดคริสตศักราชเมื่อ 1, 500 ปีมาแล้ว 

โดยว่ากันว่าร่างของพระนางหลังจากที่มีการเสียชีวิตลงแล้วนั้นถูกบรรจุไว้ในโลงศพซึ่งโลงศพของพระนางนั้นได้มีการนำเพชรนิลจินดามาตกแต่งไว้อย่างสวยงามตระการตาเลยทีเดียวหลังจากนั้นโลงศพของพระนางก็ถูกนำไปฝังไว้ในสุสานแห่งหนึ่งซึ่งสุสานดังกล่าวนั้นถูกสร้างขึ้นไว้ตรงบริเวณริมแม่น้ำไนล์  อยู่ที่เมืองลักซอร์ซึ่งสื่อสารดังกล่าวนั้นนับว่าเป็นสุสานหลวงที่หากมีเชื้อพระวงศ์เสียชีวิตก็จะถูกนำโรงศพมาเก็บไว้ที่สุสานแห่งนี้

          ว่ากันว่าเรื่องราว อาถรรพ์เจ้าหญิง อาเมน-รา    เกิดขึ้นเมื่อปลายคริสต์ศักราช 1890   เมื่อช่วงเวลาดังกล่าวนั้นได้มีมหาเศรษฐีทั้งหมด 4 คนด้วยกันนัดแม่พากันมาเที่ยวที่ประเทศอียิปต์และได้มีโอกาสเข้าไปเยี่ยมชมสุสานหลวงดังกล่าวซึ่งเป็นสถานที่เก็บโลงศพของ เจ้าหญิง  อาเมน – รา   แล้วเมื่อบรรดาเศรษฐีทั้ง 4 คนได้เห็นโลงศพของเจ้าหญิงอาเมน – รา  ที่มีความงดงามตระการตาต่างก็อยากได้โรงศพนี้เป็นสมบัติส่วนตัวของตน

       ในวันดังกล่าวนั้นได้มีเศรษฐีหนุ่มคนหนึ่งซึ่งเป็น 1 ใน 4 คนนั้นได้มีการจ่ายเงินเป็นจำนวนมหาศาลเพื่อที่จะให้มีการนำโรงศพของเจ้าหญิงอาเมน – รา   ไปไว้ที่บ้านของตนโดยเขาได้สั่งให้คนงานนำโรงศพมาเก็บไว้ที่โรงแรมที่เขาพักอยู่ก่อนเพื่อที่จะได้นำกลับไปพร้อมกับตัวเองตอนที่เดินทางกลับประเทศ

อย่างไรก็ตามหลังจากที่มีการนำโรงศพของเจ้าหญิงอาเมน – รา  มาไว้ที่โรงแรมเสร็จเรียบร้อยแล้วเสร็จที่คนดังกล่าวก็ออกไปเที่ยวตามปกติซึ่งหลังจากที่เขาออกไปก็ไม่เคยย้อนกลับมาที่โรงแรมอีกเลยและไม่มีใครเคยเห็นเขาอีกเลยโดยมีการคาดการณ์ว่าเขาน่าจะหายไปและอาจจะเสียชีวิตกลางทะเลทราย

    นอกจากนี้บรรดาเพื่อนเศรษฐีของเขาอีก 3 คนที่เหลือต่างก็ประสบเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันกันทุกคนโดยหนึ่งในเพื่อนมหาเศรษฐีนั้นได้ถูกคนใช้ของตนเองใช้อาวุธปืนยิงโดยที่ไม่ทราบสาเหตุซึ่งกระสุนได้ไปถูกที่แขนของมหาเศรษฐีคนดังกล่าวแต่แผลติดเชื้อจึงจำเป็นต้องตัดแขนทิ้งในขณะที่เพื่อนเศรษฐีอีกคนนึงนั้นประสบกับปัญหาบ้านถูกฟ้องล้มละลายธนาคารยึดทรัพย์สินไปหมดทำให้จากคนรวยกลายเป็นคนจน

       ส่วนเศรษฐีคนสุดท้ายนั้นเขาต้องเจอกับโรคร้ายที่รักษาไม่หายทรมานร่างกายอยู่นานหลายปีและหมดเงินจากการรักษาอาการของโรคนี้จนแทบสิ้นเนื้อประดาตัวแต่โลกนี้ก็ไม่สามารถรักษาให้หายได้จนท้ายที่สุดเขาก็ต้องเสียชีวิตจากการเป็นโรคร้ายนั่นเอง

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย.    sa gaming ขั้นต่ำ 5 บาท

ตำนานรักพระลอ

          ตำนานรักพระลอ เป็นเรื่องเล่าตำนานที่กล่าวขานกันมาตั้งแต่สมัยโบราณเกี่ยวกับตำนานความรักของหญิงสาวสองคนที่มีต่อชายหนุ่มคนหนึ่งโดยหญิงสาวทั้งสองนั้นมีชื่อว่าพระเพื่อนกับพระแพงซึ่งทั้งสองคนนั้นเป็นพี่น้องกันเป็นเจ้าหญิงที่ปกครองเมืองแต่เนื่องจากว่าเจ้าหญิงทั้งสองพระองค์นั้น

ได้ยินชื่อเสียงเรียงนามของเจ้าชายองค์หนึ่ง

ซึ่งครองเมืองอีกเมืองหนึ่งที่ชื่อว่าพระลอโดยเสียงเล่าลือที่พูดถึงพระลอนั้นพูดกันว่า พระลอนั้นมีรูปโฉมที่งดงามเป็นอย่างมากรูปหล่อหาใครเปรียบไม่ได้ดังนั้นทั้งสองคนจึงได้ให้คนรับใช้มาสืบจนรู้ว่าเสียงเล่าลือนั้นเป็นเรื่องจริง

        ในที่สุดทั้งเพื่อนและพระแพงต่างก็พากันตกหลุมรักพระลอ จึงได้ให้พระฤาษีปู่เจ้าสมิงพรายช่วยทำเสน่ห์ยาแฝดให้เพื่อให้พระลอ นั้นรักของตนเอง  ซึ่งแน่นอนว่าด้วยเสน่หายาแฝดที่ทางปู่เจ้าสมิงพรายทำให้นั้นทำให้ในที่สุดแล้ว พระลอ ก็ดั้นด้นออกจากเมือง

เพื่อมายลโฉมความงดงามของเจ้าหญิงทอเพื่อนและเจ้าหญิงพระแพนโดย อ้างการออกศึกประพาสป่า  อย่างไรก็ตามท้ายที่สุดแล้วทั้งสามคนก็ได้ครองคู่กันด้วยแอบได้เสียกันจนในที่สุดพระราชบิดาของเจ้าหญิงพระเพื่อนและเจ้าหญิงพระแพงก็รู้เรื่องเข้าซึ่งพระองค์นั้นแท้ที่จริงแล้วต้องการที่จะยึดครองเมืองของพระลออยู่แล้วเมื่อรู้เหตุการณ์นี้จึงแสร้งทำดีด้วยและอนุญาตให้ทั้ง 3 คนนั้นอภิเษกสมรสกัน 

          อย่างไรก็ตามในช่วงที่มีการจัดงานอภิเษกสมรสกันนั้นเองทางด้านพระเจ้าย่าของพระเพื่อนพระแพงนั้นได้มีการสั่งให้ทหารมาร้องพระตำหนักของพระเพื่อนพระแพงพระลอหลังจากนั้นก็สั่งให้ทหารใช้ธนูยิงเข้าไปเพื่อหวังที่จะฆ่าพระลอให้เสียชีวิตนั่นเอง

แต่ด้วยความรักที่เจ้าหญิงเพราะเพื่อนกับเจ้าหญิงพระแพงมีต่อสามีของตนเองก็คือพระลอทำให้ทั้งสองคนนั้นเอาตัวเองไปบังลูกธนูเพื่อไม่ต้องการให้สามีของตนเองนั้นเสียชีวิตดังนั้นเจ้าหญิงเพราะเพื่อนและเจ้าหญิงพระแพงจริงเสียชีวิตจากการโดนธนูของทหารในเมืองตนเองถ้าตายในขณะเดียวกันตัวเพราะเองก็เสียชีวิตจากการถูกธนูหญิงด้วยเช่นเดียวกัน

         หลังจากที่เรื่องราวสงบลงทุกคนก็ได้เห็นว่าไม่ว่าจะเป็นร่างของพระรอหรือร่างของพระเพื่อนและร่างของพระแพงทั้ง 3 ชีวิตนั้นเสียชีวิตกองอยู่รวมกันโดยกอดกันตายทั้ง 3 พระองค์ทำให้คนที่เห็นเหตุการณ์ต่างก็พากันเศร้าโศกเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นมากโดยมองว่าทั้ง 3 คนนั้นรักกันด้วยความจริงใจแต่ต้องมาเสียชีวิตจากเรื่องที่ผู้ใหญ่นั้นไม่ถูกกันจึงมีการสร้างอนุสรณ์เอาไว้เป็นอนุสาวรีย์ของพระลอและพระเพื่อนและพระแพงที่ถูกลูกธนูยิงซึ่งอนุสรณ์นี้ยังคงมีอยู่ที่จังหวัดแพร่จนถึงปัจจุบันนี้ 

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย  ufabet ดีที่สุด

ตำนานเสาหลักเมืองใช้มนุษย์ในการสร้างจริงหรือเปล่า

ตำนานเสาหลักเมือง เวลาที่เราได้พูดเรื่องของตำนานผีสานต่างๆนานามากมายส่วนใหญ่เราเชื่อว่าหลายๆคนก็คงจะพูดถึงเรื่องของชีวิตหลังความตายมันมีจริงหรือไม่วิญญาณมันมีอยู่จริงหรือเปล่าและถ้าหากเราตายไปเราจะได้ไปนรกหรือสวรรค์กันแน่ถูกไหมเราอยากจะบอกว่าเรื่องราวเหล่านี้มันเป้นสิ่งที่คนสงสัยกันมาที่สุด

ซึ่งมันก็ยังได้มีอยู่อีกหนึ่งเรื่องที่คนได้ตั้งคำถามขึ้นมาและคนก็ยังหาคำตอบไม่ได้นั่นก็คือเวลาที่เราตายไปในรูปแบบลักษณะต่างๆไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของตายท้องกลมตายด้วยอุบัติเหตุหรือตยโดยธรรมชาติเราจะไปเกิดเป็นวิญญาณแบบไหนถ้าหากว่าโลกใบนี้มีวิญญาณจริงๆ

โดยคำถามตรงนี้มันก็ได้เป็นคำถามที่คนได้ตั้งมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

และเขาก็ยังได้ตั้งคำถามกันอยู่ว่าสรุปแล้วเราจะเกิดไปเป็นอะไรกันแน่และคำถามนี้มันเลยไปผูกกับหัวข้อที่เราจะมาพูดในวันนี้เพราะคำถามนี้มันได้ไปโยงกับพิธีกรรมหนึ่งในอดีตที่เขาได้มีความเชื่อเกี่ยวกับการปกป้องรักษาเมืองจากโรคภัยไข้เจ็บลากภัยต่างไม่ว่าจะเป็นทั้งคนวิญญาณหรือสิ่งชั่วร้าย

ตำนานเสาหลักเมือง เพราะฉะนั้นในอดีตกาลเขาได้มีความเชื่อกันว่าในโลกของเรานี้มีทั้งคนเป็นมีทั้งคนตายและเมื่อคนตายไปแล้วมันก็จะต้องไปเกิดเป็นวิญญาณในรูปแบบไหนอันนี้เราไม่รูปอาจจะเกิดไปเป็นวิญญาณในรูปแบบที่ดีมาช่วยคนมาปกปักรักษาคนก็ว่าไปแต่เขาก็ยังได้มีความเชื่ออีกหนึ่งอย่างนั่นก็คือมันอาจจะเกิดไปเป็นวิญญาณชั่วร้ายที่เขานั้นอาจจะบุกเข้ามาโจมตีหรือก่อความวุ่นวายให้กับชาวบ้านได้

นอกจากนี้ในสมัยก่อนในเรื่องของคุณไสยมนต์ดำ

มันก็เป็นที่เรื่องชื่อและความส่วนใหญ่ก็ได้เชื่อกันมากด้วยว่าวิชาเหล่านี้ยังสามารถนำเอาควบคู่กับสงครามหรือเอามาปกปักกันพวกศัตรูได้ตรงนี้มันเลยทำให้ผู้ที่ได้ปกครองบ้านปกครองเมืองในสมัยก่อนเขามองเห็นว่าฉะนั้นแล้วเราจะต้องมีวิญญาณที่คอยอารักขาบ้านเมืองอยู่มิเช่นนั้นมันก็อาจจะเกิดเหตุร้ายและมันก็อาจจะทำให้บ้านเมืองของเขานั้นเกิดมีความวุ่นวายได้นั่นเอง

เนื่องจากนี้ในคำถามคือพวกเขานั้นจะหาวิญญาณที่ไหนดีๆที่จะมาคอยปกปักรักษาบ้านเมืองและจะจงรักภักดีต่อเมืองพวกเขาได้ตรงนี้เขาเลยเกิดแนวคิดขึ้นมาอีกหนึ่งอย่างนั่นก็คือถ้าหากเราต้องการที่จะหาวิญญาณของมนุษย์ที่จงรักภักดีต่อเมืองและต้องการปกปักรักษาเมืองวิญญาณตนนั้นจะต้องเป็นคนที่จงรักภีกดีต่อเมืองและต้องการที่จะปกปักรักษาเมืองจริงๆด้วย

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย  ufabet ฝาก-ถอน ออโต้

ตำนานห้องสีชมพู ที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

         เป็นตำนานที่เล่าขานกันปากต่อปากมาจากรุ่นพี่สู่รุ่นน้องภายในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่หรือที่เรารู้จักกันดีในนามของ มช. นั่นเอง   นับว่าตำนานนี้เป็นเรื่องเล่าที่ออกแนวสยองขวัญ ห้องสีชมพูมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งเป็นตำนานเกี่ยวกับหอพัก ซึ่งเป็นหอ 8  โดยเรื่องราวที่เกิดขึ้น นั้น เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นมาประมาณปี พ.ศ.  2532

โดยเรื่องราวนี้มีอยู่ว่า มีนักศักษาสาวคนหนึ่งเธอเข้ามาเรียนที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ในชั้นปีที่  1  เธอได้มีการพักอยู่ที่หอพักภายในมหาวิทยาลัย 

 

เมื่อเวลาผ่านไปไม่นานนักศึกษาสาวคนดังกล่าวก็มีแฟน ในช่วงแรกๆนั้น

คู่รักคู่นี้ก็รักใคร่กลมเกลียวกันดี เป็นที่น่าอิจฉาของคนทั่วไป และทั้งคู่ก็ตัดสินใจไปเช่าห้องพักอยู่ด้วยกัน โดยห้องพักของทั้งคู่นั้นจะอยู่ทางด้านหลังของมหาวิทยาลัย เพื่อที่จะได้อยู่ใกล้โรงเรียน แต่หอพักที่มหาวิทยาลัย หญิงสาวคนดังกล่าวก็ยังมาอาศัยอยู่กับเพื่อนในบางครั้งด้วย 

อย่างไรก็ตามเวลาผ่านไปไม่ถึงปี ความรักที่ฝ่ายชายมีให้ฝ่ายหญิงก็เริ่มลดลง

ห้องสีชมพูมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เพราะไปติดพันนักศึกษาสาวคนอื่น ซึ่งฝ่ายหญิงเองก็เริ่มรู้ระแคะระคายมาบ้างแล้ว แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร แต่ก็ทำให้พฤติกรรมของฝ่ายหญิงเริ่มเปลี่ยนไป เริ่มตามหึงหวงมากขึ้นกว่าเดิมทำให้ฝ่ายชายรำคาญ

อยู่มาวันหนึ่งฝ่ายชายได้มีการนัดจะมารับฝ่ายหญิงกลับไปหอพักแต่ปล่อยให้ฝ่ายหญิงต้องรอนานจนดึกดื่นเมื่อฝ่ายชายมาถึงจึงเกิดการทะเลาะกันแต่ระหว่างที่มีการขับรถไปยังหอพักหญิงก็ได้บอกฝ่ายไทยซึ่งเป็นแฟนของตนเองว่ากำลังตั้งท้องได้ 3 เดือนและเมื่อผู้ชายหรือว่าผู้หญิงกำลังตั้งท้องเขาก็ไม่ยอมรับโดยบอกให้ผู้หญิงไปเอาเด็กออกโดยฝ่ายชายปราบปรามว่าฝ่ายหญิงอาจจะคบชู้และท้องกับคนอื่นทำให้เขาไม่สามารถรับเด็กคนนี้เป็นลูกได้

       หลังจากที่ทั้งคู่ทะเลาะกันฝ่ายหญิงจึงกลับไปอยู่กับเพื่อนที่ห้องพักในมหาวิทยาลัยซึ่งเป็นตึก 8 ที่เป็นตึกตำนานสีชมพูนั่นเองอยู่มาวันหนึ่งในขณะที่รูมเมทของเธอไม่อยู่เพราะกลับบ้านที่ต่างจังหวัดด้วยความเสียใจที่ฝ่ายชายไม่ยอมรับลูกของเธอทำให้เธอคิดที่จะเอาเด็กออก

แต่ด้วยเธอไม่กล้าที่จะไปทำแท้งตามคลินิกเถื่อนเธอจึงได้หาวิธีการทำแท้งด้วยตนเองซึ่งเธอได้ใช้ไม้บรรทัดล้วงเข้าไปในมดลูกเพื่อต้องการที่จะคว้านเอาเด็กออกแต่บังเอิญว่าไม้บรรทัดไปกระแทกถูกผนังมดลูกทำให้เกิดการฉีกขาดทำให้เธอตกเลือดและเสียชีวิตในเวลาต่อมา

       แต่ก่อนที่เธอจะตายเธอได้นำเลือดของเธอไปเขียนที่บริเวณผนังห้องใจความว่าเธอไม่ได้มีชู้และเธอมีแฟนหนุ่มเป็นคนรักเพียงคนเดียวซึ่งวันรุ่งขึ้นรูมเมทของเธอกลับมาจากบ้านที่ต่างจังหวัดก็มาพบว่าเธอเสียชีวิตแล้วหลังจากที่มีการทำพิธีศพให้เธอเป็นที่เรียบร้อยทั้งด้านคนดูแลห้องพักก็ได้มีการทำความสะอาดห้องพักลบคราบเลือดที่เธอเขียนทิ้งเอาไว้ด้วย

การนำสีขาวมาทาทับแต่ไม่ว่าจะทาสีขาวทับกี่ครั้งวันรุ่งขึ้นก็จะมีข้อความที่เธอเขียนเอาไว้ปรากฏขึ้นอยู่เหมือนเดิม จนคนในหอพักต่างพากันหวาดกลัวซึ่งเจ้าหน้าที่ดูแลหอพักได้มีการไปเชิญพระมาทำพิธีสวดเพื่อขับไล่วิญญาณร้ายแต่ก็ไม่สามารถขับไล่ได้

          ทําได้เพียงแค่สะกดวิญญาณไม่ให้ไปหลอกหลอนคนในหอพักเพียงเท่านั้นและนับตั้งแต่พระเข้ามาทำวิธีการสะกดวิญญาณก็ไม่มีใครเจอวิญญาณของหญิงสาวคนดังกล่าวเลยซึ่งคนดูแลหอพักก็ต้องใช้เป็นวิธีการทาสีห้องพักนั้นใหม่ด้วยการใช้สีชมพูแทนเนื่องจากว่าไม่สามารถใช้สีขาวทาได้เพราะทุกครั้งที่มีการทาสีขาวสีเลือดที่เขียนติดผนังไว้ก็จะเด่นขึ้นมาให้เห็นทุกครั้งไปนั่นเองจึงเป็นที่มาของห้องสีชมพู

 

ได้รับการสนับสนุนโดย.  gclub สล็อตฟรี